การถนอมอาหารที่คนส่วนใหญ่ทำกัน คือ การนำใส่ตู้เย็น เพื่อใช้อุณหภูมิรักษาเก็บอาหารไว้นาน ๆ แต่…แน่ใจเหรอว่าเรากำลังถนอมอาหารหรือยิ่งเร่งให้อาหารเน่าเสียเร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการเก็บรักษาอาหารด้วยการแช่เย็นใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับอาหารทุกชนิด มีอาหารอะไรบ้างนะที่ไม่ควรนำไปใส่ตู้เย็น เช็คดูกันหน่อย แล้วลองเปิดตู้เย็น มีอาหารชนิดใดบ้างที่ไม่ควรอยู่ในตู้เย็นของเรา จะได้รีบนำมันออกมาทันก่อนอาหารจะเสีย
มันฝรั่ง
การเก็บมันฝรั่งควรห่อกระดาษ หรือใส่ถุงกระดาษแล้วเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น เช่น การเก็บมันฝรั่งในลิ้นชัก หรือตู้เก็บอาหาร ไม่ควรนำเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะอุณหภูมิและความชื้นของตู้เย็น จะทำให้แป้งในมันฝรั่งกลายเป็นเนื้อทราย สูญเสียรสชาติ และคุณประโยชน์ดี ๆ ไป
มะเขือเทศ
หลายคนที่มักจะนำมะเขือเทศใส่ตู้เย็น เพราะคิดว่าจะช่วยเก็บรักษามะเขือเทศไว้ได้นาน แต่ในความเป็นจริง ความเย็นของตู้เย็นจะทำให้มะเขือเทศเสียรสชาติ อีกทั้งยังไปเร่งให้มะเขือเทศเหี่ยวเร็วขึ้น วิธีเก็บมะเขือเทศได้นาน ๆ คือ ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ในที่แห้ง ไม่อับชื้น และห่างไกลจากแสงแดด จะช่วยรักษาคุณภาพ รสชาติของมะเขือเทศได้นาน
น้ำผึ้ง
สำหรับคนรักการทานน้ำผึ้งย่อมรู้ดีว่า การเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็น จะทำให้น้ำผึ้งจับตัวเป็นก้อนและตกผลึก จึงไม่นิยมเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็น แต่สำหรับมือใหม่ในการหัดดื่มน้ำผึ้ง อาจยังไม่รู้ ดังนั้น การเก็บน้ำผึ้งที่ดี ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องก็พอ และเก็บให้ห่างจากแสงแดดส่องถึง เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บน้ำผึ้งไว้ทานได้นานเป็นปี และคงรสชาติธรรมชาติได้นาน
หัวหอม
สำหรับการเก็บหัวหอมที่ยังไม่ปอกเปลือก ไม่ควรนำไปแช่เย็นเด็ดขาด เพราะความชื้นในตู้เย็นจะส่งผลให้หัวหอมขึ้นรา นิ่ม และเละ แถมยังทำให้กลิ่นหัวหอมติดกับอาหารอื่น ๆ และติดตู้เย็น เปิดตู้เย็นแล้วอาจเวียนหัวได้ การเก็บหัวหอมให้ได้นาน ควรเก็บไว้ในถุงกระดาษ แล้วไว้ในที่แห้งและเย็น เช่น ในลิ้นชัก หรือตู้เก็บอาหาร แต่สำหรับหัวหอมที่หั่นแล้วใช้ปรุงอาหารไม่หมด สามารถเก็บใส่ถุงซิปล็อค แล้วใส่ในช่องเก็บผักได้ตามปกติ และควรรีบใช้ให้หมด เพราะไว้นานหอมที่หั่นไว้จะนิ่มเละเกินไป คุณภาพไม่ดี หรืออาจเกิดราจนกินไม่ได้
แอปเปิล
การเก็บแอปเปิลในตู้เย็น จะได้ผลเดียวกับมะเขือเทศ คือ แอปเปิลเสียรสชาติแอป ดังนั้น วิธีเก็บแอปเปิลควรเก็บไว้นอกตู้เย็นโดยไม่ต้องปอกเปลือก แต่ถ้าต้องการทานแอปเปิลเย็น ๆ ให้ปอกแล้วนำไปแช่ตู้เย็นก่อนที่จะทานประมาณ 20 -30 นาที
แตงโม
แตงโมผลไม้รสหวานฉ่ำ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แถมยังเป็นแหล่งวิตามินต่าง ๆ และเนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำค่อนข้างเยอะ หากนำแตงโมทั้งลูกแช่ตู้เย็น อาจทำให้แตงโมแตกได้ และยังเสียสารประโยชน์ รวมไปถึงรสชาติก็อาจเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น การเก็บแตงโมที่ดีที่สุดคือ เก็บแตงโมไว้นอกตู้เย็น แต่ถ้าเป็นแตงโมที่หั่นชิ้นไว้แล้ว นำไปแช่ตู้เย็นได้ แต่ไม่ควรเก็บไว้นานเกินไป เพราะความเย็นภายในตู้เย็นจะทำให้เนื้อแตงโมช้ำน้ำมากเกินไป เสียรสชาติได้
เมลอน
การเก็บเมลอนให้ได้นาน ไม่เสียรสชาติ และยังประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระไว้ครบ คือ การเก็บเมลอนไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือใส่ภาชนะแล้ววางไว้บนเคาท์เตอร์ แต่สำหรับเมล่อนที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็น และเก็บได้ประมาณ 3-4 วัน
กาแฟ
การนำกาแฟแช่ไว้ในตู้เย็น จะทำให้กาแฟเสียรสชาติ และกลิ่นของกาแฟจะถูกแทนที่ด้วยสารพัดกลิ่นที่อยู่ในตู้เย็น เพราะกาแฟมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดี ดังนั้น การเก็บกาแฟควรใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และทึบแสง จะช่วยเก็บคุณภาพ รสและกลิ่นหอมของกาแฟได้นานมากขึ้น ไม่เหม็นหืนเร็ว
ฟักทอง
มีหลายคนที่เข้าใจผิด มักจะนำฟักทองแช่ตู้เย็น เพราะคิดว่าจะช่วยเก็บได้นาน แต่วิธีเก็บฟักทองให้ได้นานและดีที่สุดคือ เก็บฟักทองไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ในที่แห้ง ไม่อับชื้น ไม่ร้อนอบ ไม่โดนแดดส่องถึง จึงจะช่วยยืดอายุฟักทองได้นาน
เปิดตู้เย็นดูหน่อยดีกว่า มีอาหารอะไรที่คุณกำลังถนอมผิดวิธีอยู่หรือเปล่า นำเก็บให้ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุอาหาร และยังไม่เปลืองพื้นที่ในตู้เย็น แถมลดการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นอีกด้วยนะ