การกลั่นแกล้งในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะด้วยคำพูด การกระทำ หรือในทางออนไลน์ (Cyberbullying) ก็ตาม ล้วนแต่ต้องการให้ผู้ถูกกระทำเกิดความอับอาย ได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจ สามารถพบเจอได้ในทุกสถานะสังคมและทุกวัย และปัญหาการบูลลี่นั้นเกิดขึ้นแทบทั่วโลก
UNESCO พบว่า ในปี พ.ศ. 2563 พบเยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ทั่วโลกต่างเคยถูก Bully ซึ่งช่วงวัย 13-15 ปี จะมีการกลั่นแกล้งในรูปแบบของการบูลลี่มากที่สุด ส่วนในประเทศไทยนั้นก็พบว่ามีเด็กนักเรียนโดนบูลลี่ประมาณ 600,000 คน / ปี หรือคิดเป็น 48% ของเด็กนักเรียนไทยทั้งหมด และมีรายงานว่าประเทศไทยนั้นมีการบูลลี่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น เท่านั้น ถือได้ว่าปัญหาการ Bully นั้นควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ Cyberbully เนื่องจากพบว่ามีมากกว่า 48% ของเด็กไทยที่มีความเกี่ยงข้องกับ Cyberbully ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ที่ 33% ในขณะที่อีก 41% ของเด็กไทยเคยเป็นผู้ถูก Cyberbullying และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก (39%) อีกเช่นกัน
ผู้ที่ทำการกลั่นแกล้งหรือบูลลี่ผู้อื่นหลายคนที่ทำไปด้วยความสนุกส่วนตัว โดยไม่ได้คำนึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ แม้จะเป็นการหยอกล้อหรือล้อเลียนในกลุ่มเพื่อนก็ตาม แต่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้สนุกด้วย แต่อาจรู้สึกกำลังถูกคุกคาม รู้สึกไม่ดีจนสะสมเป็นรอยบาดแผลในใจ และเมื่อทำการศึกษาทางจิตวิทยา ผู้ที่ถูก Bully มีแนวโน้มจะมีความวิตกกังวล มีความเครียดสูง ขาดความมั่นใจในตนเอง มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต หลีกหนีการอยู่ร่วมกับผู้อื่น กลายเป็นโรคซึมเศร้า ใช้สารเสพติดเพื่อหลีกหนีความจริง มีพฤติกรรมก้าวร้าว ต่อต้านสังคม ทำผิดกฏหมาย ก่ออาชญากรรม หรือฆ่าตัวตายได้
การบูลลี่ มีแนวโน้มที่จะมีการขยายวงกว้างและสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตได้จากข่าวที่มีผลกระทบจาก Cyberbully ที่เป็นสาเหตุทำให้ผู้คน หรือแม้แต่ศิลปิน นักแสดง และผู้มีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ ฆ่าตัวตายกันเพิ่มขึ้นในทุกปี และคนส่วนใหญ่มักจะถูกบูลลี่กันได้ตลอดเวลา ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว การโดนบูลลี่จากสังคม หรือภายในกลุ่มเพื่อนที่อาจเกิดมาจากการหยอกล้อเล่นของเพื่อน โดยไม่คาดคิดว่าจะสร้างรอยแผลให้กับเพื่อนจนส่งผลในอนาคตได้ ดังนั้น เพื่อเราทุกคนจึงควรมีการสร้างเกาะป้องกันตน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสภาพจิตใจ ให้ทนทานต่อการถูกกลั่นแกล้ง หรือ การถูก Bully ในทุกรูปแบบ ด้วยเคล็ดลับทางจิตวิทยา ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. ฝึกควบคุมอารมณ์
การควบคุมอารมณ์ให้ได้นั้น สิ่งแรกคือต้องรู้เท่าทันอารมณ์ของตนให้ได้ก่อน ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในอารมณ์แบบใด เศร้า โกรธ อาย เสียใจ ขาดความมั่นใจ และเมื่อเรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ให้ฝึกควบคุมอารมณ์ ด้วยการปล่อยความรู้สึกทางลบออกไป หรือเก็บไว้ภายในแล้วหาวิธีหลีกหนีออกจากตรงจุดนั้น อาจขอย้ายที่นั่ง ย้ายห้อง ย้ายที่อยู่ ย้ายที่ทำงาน หรือเปลี่ยนพลังทางลบไปเป็นการให้ความสนใจด้านอื่นแทน เช่น ไปท่องเที่ยว ไปออกกำลังกาย ไปพบเพื่อน ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ชอบ หรือขั้นแอดวานซ์ขึ้นมาอีกนิดแต่ช่วยให้รับมือกับพลังงานลบได้เสมอ คือ การทำให้ตนผ่อนคลาย อาจด้วยวิธีการเจริญสติ การควบคุมลมหายใจ การคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเพื่อระบายอารมณ์ หรือการพักผ่อนในสไตล์ที่ชอบ เช่น การนอนฟังเพลงโปรด การเล่นดนตรี เป็นต้น
2. สร้างคุณค่าให้ตนเอง
เพราะจุดประสงค์ของการ Bully นั้น คือการทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกด้อยค่า อับอาย ขาดความมั่นใจ หวาดกลัว ฯลฯ ซึ่งเป็นด้านลบทั้งหมด ดังนั้นควรสร้างเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง ด้วยการมองเห็นคุณค่าในตัวตน มองว่าตนมีดีมากเกินกว่าจะมาเสียเวลาใส่ใจหรือให้ค่ากับการกลั่นแกล้ง และเมื่อเราทำได้ดังนี้ คนที่บูลลี่เราก็จะเลิกราไปเอง โดยเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้รู้สึกว่าตนนั้นมีคุณค่า คือ การสร้างประโยชน์ให้กับคนและสิ่งรอบข้าง ใส่ใจคนรอบรอบตัว ช่วยเหลือผู้อื่นตามโอกาส ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่โลกในรูปแบบต่าง ๆ และเมื่อเราสร้างคุณค่าให้กับตนเอง และเห็นค่าในตัวตน การด้อยค่าจากผู้อื่นก็จะทำร้ายเราไม่ได้
3. ทำจิตใจให้เข้มแข็งด้วย สติ
เมื่อมีการบูลลี่ กลั่นแกล้ง หรือทำให้เรารู้สึกด้อยค่า ควรใช้ สติ หยุดมองถึงปัญหาว่าเรากำลังเจอกับอะไร แล้ว แล้วย้อนกลับไปยังข้อที่ 1 เพื่อให้จิตใจได้เข้มแข็ง โดยไม่หนีปัญหา แต่มองว่าการบูลลี่ คือ บททดสอบการใช้ปัญญาในการรับมือกับปัญหาของเรา เป็นการฝึกให้เราเข้มแข็ง และเมื่อเจอปัญหาอื่น ๆ ในอนาคต เราก็จะผ่านมันไปได้ โดยไม่กลายเป็น “เหยื่อ” ให้คนอื่นทำร้าย หรือจบที่การทำร้ายตนเอง
4. สร้างกัลยาณมิตร
การมีเพื่อนแท้ มีเพื่อนที่ดี จะช่วยเป็นเกราะอีกทางให้กับเราจากการถูกบูลลี่ได้ เพราะเมื่อเราเจอการกลั่นแกล้ง หรือ cyberbullying ไม่ว่าจะเป็นคำดูถูก หรือสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด แต่เราจะมีเพื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือในการเยียวยาทางจิตใจ ให้คำปรึกษาทีดี เป็นที่ฮีลหัวใจได้อย่างดี จนสารพัดการบูลลี่ที่เจอนั้นไร้ค่าเกินกว่าจะให้ความสนใจ ดังนั้นควรสร้างมิตร ด้วยการให้ความจริงใจ เอาใจเขาใส่ใจเรา เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน
เชื่อว่าแทบทุกคนในโลกใบนี้ต่างก็โดนกลั่นแกล้ง เพียงแต่อาจต่างรูปแบบ ต่างวาระ และการบูลลี่ก็ไม่สามารถที่จะกำจัดให้หายไปได้ง่าย ๆ ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจที่มีต่อการถูก Bullying นั้น จะช่วยลดผลกระทบทางใจให้เราได้เป็นอย่างดี และถ้าทุกคนทำได้เช่นนี้ เชื่อว่าจะช่วยลดการสูญเสียและความเสียหายที่เกิดจากผลกระทบของการ Bully ได้อย่างถาวรในที่สุด