เรื่องน่ารู้

ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานอย่างไร?

น้ำเสียเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียจากครัวเรือน อุตสาหกรรม หรือการเกษตร หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ดังนั้นระบบบำบัดน้ำเสียจึงมีบทบาทสำคัญในการกำจัดมลพิษออกจากน้ำเสียก่อนปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ หรือหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่

ประเภทของน้ำเสีย

น้ำเสียสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่:

  1. น้ำเสียชุมชน (Domestic Wastewater) – เกิดจากกิจกรรมภายในครัวเรือน เช่น การซักล้าง อาบน้ำ และขับถ่าย
  2. น้ำเสียอุตสาหกรรม (Industrial Wastewater) – เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงาน เช่น สารเคมี โลหะหนัก และน้ำมัน
  3. น้ำเสียเกษตรกรรม (Agricultural Wastewater) – เกิดจากการใช้ปุ๋ย สารเคมี และของเสียจากการเลี้ยงสัตว์

กระบวนการบำบัดน้ำเสีย

ระบบบำบัดน้ำเสียมีหลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การบำบัดทางกายภาพ การบำบัดทางชีวภาพ และการบำบัดทางเคมี

1. การบำบัดทางกายภาพ (Physical Treatment)

เป็นกระบวนการที่ใช้หลักทางกายภาพเพื่อแยกสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำเสีย ประกอบด้วย:

  • การกรองตะแกรง (Screening): ใช้ตะแกรงหรือแผ่นกรองดักจับของแข็งขนาดใหญ่ เช่น ขยะ เศษไม้ และพลาสติก
  • การตกตะกอน (Sedimentation): ปล่อยให้น้ำเสียไหลผ่านถังตกตะกอนเพื่อให้ตะกอนหนักจมลงก้นถัง
  • การลอยตัวของไขมัน (Floatation): ใช้แรงดันอากาศช่วยให้ไขมันและน้ำมันลอยขึ้นเพื่อนำออก

2. การบำบัดทางชีวภาพ (Biological Treatment)

เป็นกระบวนการที่ใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย แบ่งออกเป็น:

  • ระบบใช้ออกซิเจน (Aerobic Treatment): ใช้ออกซิเจนช่วยให้จุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ ตัวอย่างเช่น ระบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge) และบ่อเติมอากาศ
  • ระบบไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Treatment): ใช้จุลินทรีย์ที่สามารถทำงานในสภาพไร้ออกซิเจน เช่น ระบบถังหมักไร้อากาศ (Anaerobic Digestion) ซึ่งสามารถผลิตก๊าซมีเทนเป็นพลังงานทดแทน

3. การบำบัดทางเคมี (Chemical Treatment)

เป็นกระบวนการที่ใช้สารเคมีช่วยในการกำจัดมลพิษ เช่น:

  • การตกตะกอนทางเคมี (Chemical Precipitation): เติมสารเคมี เช่น อะลูมิเนียมซัลเฟต หรือเฟอริกคลอไรด์ เพื่อช่วยให้ตะกอนรวมตัวและตกลงสู่ก้นถัง
  • การฆ่าเชื้อโรค (Disinfection): ใช้คลอรีน โอโซน หรือแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในน้ำ

ระบบบำบัดน้ำเสียที่ใช้กันทั่วไป

ปัจจุบันมีระบบบำบัดน้ำเสียหลายประเภทที่ได้รับความนิยม ได้แก่:

  1. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge System) – เป็นระบบที่ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ร่วมกับการเติมอากาศ
  2. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อบำบัดธรรมชาติ (Pond System) – ใช้พืชและแบคทีเรียธรรมชาติช่วยบำบัดน้ำเสีย
  3. ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเมมเบรน (Membrane Bioreactor – MBR) – ใช้เยื่อเมมเบรนกรองน้ำเสียให้สะอาดก่อนปล่อยออก

ข้อดีของการบำบัดน้ำเสีย

  • ลดมลพิษทางน้ำ ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน
  • สามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ลดการใช้น้ำจืด
  • ช่วยสร้างพลังงานจากก๊าซชีวภาพในกระบวนการบำบัด

สรุป

ระบบบำบัดน้ำเสียเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ โดยอาศัยการบำบัดทางกายภาพ ชีวภาพ และเคมีร่วมกัน ระบบเหล่านี้สามารถช่วยลดมลพิษทางน้ำและทำให้น้ำเสียสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการจัดการน้ำเสียอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ทรัพยากรน้ำถูกใช้ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

หากคุณกำลังมองหามืออาชีพที่เข้าช่วยติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่ว่าจะทั้งในภาคธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ  Safe Fiberglass Tank คือมืออาชีพที่พร้อมดูแลด้านงานติดตั้งครบวงจรให้กับคุณจนคุณสามารถจึงมั่นใจได้เลยว่าจะระบบบำบัดน้ำเสียในสถานที่ของคุณ จะถูกออกแบบและติดตั้งตามหลักความปลอดภัยวิศวกรรม ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไร้ปัญหากวนใจ

ติดต่อหา Safe Fiberglass Tank วันนี้เพื่อเริ่มต้นออกแบบวางระบบบำบัดน้ำเสียตามความต้องการของคุณ

Related posts
สุขภาพอาหารเรื่องน่ารู้

ทำไมมือกับเท้าฉันลอก?สาเหตุและวิธีการดูแลผิวมือและเท้าที่ลอก?

การลอกผิวที่มือและเท้าเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต…
Read more
ความงามเซเลบริตี้เรื่องน่ารู้ไลฟ์สไตล์

9 ไอเดียใส่สูทผู้ชายอย่างไรให้ปัง 

ในปัจจุบัน…
Read more
อื่นๆเรื่องน่ารู้

“ตุ่นปากยาว” สัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่เคยถูกเข้าใจว่าสูญพันธุ์ไปจากโลก

หลังจากที่เพจเฟซบุค มูลนิธิ สืบ…
Read more
รับสมัครข่าวสาร
มาเป็นผู้นำเทรนด์

ลงชื่อสมัคร แบรนด์ฟอล แทลเอ็นท และรับสิ่งที่ดีที่สุดของ แบรนด์ ฟอล แทลเอ็นท ที่ปรับแต่งมาเพื่อคุณ